การเอกซเรย์ฟัน คืออะไร?
คือการใช้รังสี เอกซเรย์ฟัน เพื่อถ่ายภาพช่องปาก เป็นรังสีชนิดเดียวกับที่ใช้เอกซเรย์ทางการแพทย์อย่างการเอกซเรย์ปอด ทรวงอก หรือช่องท้อง แต่จะใช้ปริมาณรังสีที่น้อยกว่ามาก จึงมีความปลอดภัยสูง และมีความเสี่ยงในการเกิดผลข้างเคียงน้อยมาก ภาพถ่ายที่ได้จากรังสีเอกซ์นั้น จะเป็นภาพสีขาว – ดำที่มีความเข้มของสีแตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับการดูดซับของรังสี โดยจะเห็นกระดูกเป็นสีขาว ในขณะที่ไขมันและเนื้อเยื่ออื่น ๆ ที่ดูดซับรังสีได้น้อยจะเห็นเป็นสีเทา จึงทำให้ทันตแพทย์สามารถตรวจดูสภาพฟันและกระดูกเบ้าฟันได้อย่างละเอียด ช่วยให้สามารถประเมินความเสี่ยงในการเกิดฟันผุ หรือปัญหาฟันต่าง ๆ อาจเกิดขึ้นได้ และวางแผนการรักษาได้อย่างเหมาะสมนั่นเอง
การ เอกซเรย์ฟัน ช่วยวิเคราะห์ปัญหาต่าง ๆ ได้อย่างไร
เมื่อเราไปตรวจสุขภาพฟันและช่องปากครั้งแรก หรือก่อนที่จะเข้ารับการรักษาทางทันตกรรมต่าง ๆ สิ่งแรกที่ทันตแพทย์มักทำก็คือการเอกซเรย์ฟัน หรือ X-Ray ฟัน เพื่อตรวจวิเคราะห์อาการต่าง ๆ เกี่ยวกับฟัน ช่วยให้การวางแผนรักษาทางทันตกรรมมีความแม่นยำมากยิ่งขึ้น นับเป็นอีกหนึ่งขั้นตอนสำคัญที่ขาดไม่ได้เลย
จุดประสงค์ของการเอกซเรย์ฟัน
จุดประสงค์หลักของการถ่ายภาพเอกซเรย์ช่องปากและฟันของคนไข้นั้น ทันตแพทย์จะใช้เป็นแหล่งข้อมูลสำคัญที่ใช้ในการวินิจฉัยโรค และวางแผนรักษาทางทันตกรรมต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น ถอนฟัน ดูรอยฟันผุ จัดฟัน รักษาโรคเหงือก หรือตรวจหาฟันคุด ไปจนถึงตรวจติดตามผลการรักษา
การ เอกซเรย์ฟัน อันตรายหรือไม่?
การรับปริมาณรังสีที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของเม็ดเลือดจะอยู่ที่ 0.5 ซีเวิร์ต ซึ่งการเอกซเรย์ทางการแพทย์อย่างเอกซเรย์ปอดจะได้รับรังสีประมาณ 0.0002 ซีเวิร์ตเท่านั้น ดังนั้นการเอกซเรย์ช่องปากและฟันที่มีการได้รับรังสีน้อยกว่านี้มากจึงไม่ทำให้เกิดอันตรายต่อร่างกายแต่อย่างใด อย่างไรก็ตาม มาตรฐานป้องกันอันตรายจากรังสีได้กำหนดไว้ว่า ไม่ให้มีการรับรังสีโดยไม่จำเป็น ไม่ว่าจะมีปริมาณเล็กน้อยเท่าใด การ X – Ray ฟันและช่องปากจึงควรทำกับทันตแพทย์เท่าที่จำเป็นเท่านั้น หากไม่มีข้อบ่งชี้ก็ไม่ควรที่จะทำการเอกซเรย์ เพื่อลดการสัมผัสรังสีให้ได้มากที่สุด