จัดฟัน
คลินิกทันตกรรมวิลเด็นท์ (Will Dent Dental Clinic)
คลินิกทันตกรรมครบวงจร ดูแลฟันสวย ส่งต่อรอยยิ้มที่มั่นใจ
การจัดฟัน คืออะไร
การจัดฟัน (Orthodontics) เป็นทันตกรรมเฉพาะทางที่เป็นทั้งการรักษาความผิดปกติ และเพื่อความงาม โดยจะต้องมีการวิเคราะห์ วินิจฉัยและวางแผน ป้องกัน รวมไปถึงการรักษาความผิดปกติของการเรียงตัวของฟัน การสบฟัน และปัญหาที่เกี่ยวกับขากรรไกรที่จำเป็นต้องสัมพันธ์กับใบหน้า ดังนั้นการจัดฟันจึงเป็นการรักษาเพื่อให้มีการสบฟันที่ดีขึ้น การบดเคี้ยวอาหารมีประสิทธิภาพ และลดปัจจัยเสี่ยงในการเกิดฟันผุหรือโรคเหงือกอันเนื่องมาจากฟันเรียงตัวผิดปกติ และที่สำคัญไม่แพ้กัน การจัดฟันยังทำให้ยิ้มได้อย่างมั่นใจ และเป็นการเสริมบุคลิกภาพ ซึ่งการจัดฟันจำเป็นต้องทำโดยทันตแพทย์เฉพาะทาง ในคลินิกทันตกรรมเฉพาะทางที่ได้มาตรฐานเท่านั้นถึงจะดูแลรักษาฟันของเราให้มีความสวยงามและปลอดภัย
จัดฟันมีกี่แบบ?
รูปแบบชนิดของการจัดฟันแบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลัก ๆ คือ
1. การจัดฟันแบบติดเครื่องมือ: เป็นวิธีจัดฟันที่แพร่หลาย และใช้กันมายาวนาน
2. การจัดฟันแบบไม่ติดเครื่องมือ: เป็นการจัดฟันแบบถอดได้ หรือแบบใส ไม่ต้องติดเครื่องมือจัดฟันบนฟัน โดยทั้ง 2 ประเภทนี้ มีชนิดของเครื่องมือจัดฟันให้เลือกได้เหมาะสมกับตามความต้องการ แบ่งออกเป็นทั้งหมด 4 แบบดังนี้
การจัดฟันแบบติดเครื่องมือ
1. การจัดฟันแบบโลหะ
เป็นการจัดฟันโดยการติดเครื่องมือแบบโลหะไว้ที่ผิวด้านหน้าของฟัน ใส่ลวดผ่านร่อง Bracket และใช้ยางโอริง (O-ring) สีสันสดใสรัดตัวเครื่องมือจัดฟันให้ติดกับลวดจัดฟัน ทำให้การจัดฟันติดแน่น และต้องมีการปรับเครื่องมือทุก ๆ เดือน นับว่าเป็นการจัดฟันที่ได้รับความนิยมมากที่สุด โดยเฉพาะในกลุ่มเด็กๆ และวัยรุ่น
ข้อดี: เป็นวิธีที่ง่าย ราคาไม่แพง ค่าใช้จ่ายน้อยกว่าตัวอื่น ระยะเวลาในการจัดฟัน 2 ปีขึ้นไป
เหมาะกับใคร: การจัดฟันแบบโลหะเหมาะกับนักเรียน นักศึกษา ที่มีงบประมาณจัดฟันจำกัด และผู้ที่มีเวลาสามารถมาพบทันตแพทย์ได้บ่อย ๆ แนะนำให้เลือกคลินิกที่เดินทางสะดวก เพราะต้องไปเปลี่ยนยางทุกเดือน
2. จัดฟันแบบ Damon เป็นการจัดฟันด้วย Bracket แบบใหม่ไม่ต้องใช้ยางรัด มีประสิทธิภาพสูง มีกลไกการบานพับขนาดเล็กที่ยึดกับลวดอย่างหลวม ๆ เพื่อดึงให้ฟันเคลื่อนตัว
ข้อดี: การจัดฟันดามอน (Damon) ไม่ต้องใช้ยาง ดังนั้นจึงไม่มีปัญหาเรื่องยางขาด หรือยางเสื่อมสภาพ เนื่องจากใช้เทคโนโลยีแบบ self-ligating ซึ่งลักษณะจะเป็นบานพับเปิดปิด ลดแรงเสียดทาน ส่งผลให้ฟันเคลื่อนที่เร็ว ซึ่งได้รับการรับรองจากแพทย์ว่าช่วยลดระยะเวลาในการจัดฟันน้อยลง เมื่อเทียบกับการจัดฟันแบบโลหะ และตอนปรับเครื่องมือยังเจ็บน้อยกว่า จัดฟันดามอน มี 2 รุ่นคือ
เหมาะกับใคร: เหมาะกับทุกเพศทุกวัย เพราะสามารถดูเเลความสะอาดฟันได้ง่าย ลดโอกาสการเกิดฟันผุ และโรคเหงือกอักเสบได้
Damon Q เครื่องมือสีโลหะ
Damon clear เครื่องมือสีใส
การจัดฟันแบบไม่ติดเครื่องมือ
จัดฟันแบบใส เป็นนวัตกรรมการจัดฟันแบบใหม่ เน้นความสวยงามเป็นหลัก เพราะใช้เครื่องมือโปร่งใสช่วยปรับการเรียงตัวของฟัน
ทางคลินิกมี 2 แบรนด์ให้เลือกใช้
1. Invisalign เป็นเครื่องมือจัดฟันที่สามารถถอดใส่ได้จาก USA มีหลากหลายราคาและจำนวนชิ้น ดังนี้
Invisalign Express (7คู่) เหมาะกับผู้ที่จัดฟันมาแล้วไม่ใส่รีเทนเนอร์ ทำให้ฟันเคลื่อนเพียงเล็กน้อย
Invisalign Lite (14คู่) เหมาะกับผู้ที่มีฟันหน้าซ้อนเกเพียงเล็กน้อย เน้นจัดเรียงแต่ฟันหน้า
Invisalign Moderate (26คู่) เหมาะกับผู้ที่มีฟันซ้อนเกปานกลาง
Invisalign Comprehensive (ไม่จำกัดจำนวนชิ้น) เหมาะกับผู้ที่มีฟันซ้อนเกมาก และเคสที่ต้องถอนฟันร่วมด้วย
2. Crystal smile เป็นเครื่องมือจัดฟันใสของคนไทย ราคาย่อมเยา ส่งแลปในประเทศ ไม่ต้องรอนาน มีหลากหลายแบบและราคาเช่นเดียวกัน
Crystal smile correct 6 คู่ เหมาะกับผู้ที่จัดฟันมาแล้วไม่ใส่รีเทนเนอร์ ทำให้ฟันเคลื่อนเพียงเล็กน้อย
Crystal smile moderate 20 คู่ เหมาะกับผู้ที่มีฟันหน้าซ้อนเกเพียงเล็กน้อย เน้นจัดเรียงแต่ฟันหน้า
Crystal smile comprehensive 36 คู่ เหมาะกับผู้ที่มีฟันซ้อนเกปานกลาง และมาก ไม่สามารถใช้ในเคสที่ถอนฟันได้
ข้อดี: เป็นการจัดฟันใสทำให้มองไม่เห็นเครื่องมือ มีความสวยงามเหมือนฟันปกติ สะดวก ไม่ต้องทนเจ็บจากเครื่องมือแบบติดแน่น สามารถถอดใส่ง่าย รับประทานอาหารหรือเคี้ยวอาหารได้ตามปกติ
เหมาะกับใคร: กลุ่มดารา นักธุรกิจที่ต้องใช้หน้าตา และความน่าเชื่อถือ เพราะสามารถจัดฟันได้โดยไม่ต้องใส่เหล็กดัดฟัน สามารถพูด หรือออกเสียงได้อย่างชัดเจน
จัดฟันครั้งแรก ควรรู้อะไรบ้าง
จัดฟันที่ไหนดี
เป็นคำถามที่ทุกคนสงสัย และเป็นความถามที่หมอก็ตอบยากเหมือนกันค่ะ อาจจะให้คำแนะนำ และข้อมูลดีๆ เพื่อประกอบการตัดสินใจ รวมถึงความมั่นใจในการเลือกคลินิกนั้นๆ เพราะเดี๋ยวนี้คลินิกจัดฟันมีเยอะมาก ในฐานะคลินิกเราก็รับจัดฟัน แต่เราไม่อาจบอกว่า เราดีที่สุดสำหรับคนไข้จัดฟันทุกคน แต่เราขอเป็นทางเลือกให้คนไข้ที่อยากจัดฟันได้พิจารณา เพราะคุณหมอของ’เรา’เป็นคุณหมอเฉพาะทางจากจุฬา (ไม่ต้องรอคิว) สามารถมาปรึกษาจัดฟันได้อย่างเป็นกันเองกับคุณหมอ คุณหมอจะให้เวลาในการตอบทุกคำถาม เพื่อหาแผนการรักษาที่ดีที่สุดสำหรับคนไข้ทุกคน สถานที่ตั้งของคลินิก สามารถเดินทางได้สะดวกทั้งรถไฟฟ้าบีทีเอสและ รวมถึงรถยนต์ (มีสถานที่จอดรถ) เรื่องค่าใช้จ่ายแบ่งชำระเป็นรายเดือนได้ในทุกๆครั้ง ที่มีการปรับเครื่องมือในแต่ครั้ง
จัดฟันช่วยเรื่องอะไรบ้าง?
การจัดฟันช่วยให้การเรียงฟันเป็นระเบียบสวยงามมากยิ่งขึ้น ใครที่สงสัยว่าปัญหาของตนเองแก้ไขด้วยการจัดฟันดีไหม ต้องให้ทันตแพทย์ช่วยประเมินปัญหา เช่น
1. การจัดฟันสามารถปรับแนวฟันให้เรียงตัวเป็นระเบียบ สวยงาม และช่วยรักษาสุขภาพช่องปากดีขึ้น
2. ช่วยให้การดูแลรักษาฟันเป็นเรื่องง่ายขึ้น เมื่อฟันเรียงตัวดี อยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสม ก็สามารถทำความสะอาดได้ง่าย ลดปัญหาฟันผุ เพราะฟันที่เรียงตัวไม่เป็นระเบียบนี้ ทำให้เศษอาหารไปติดอยู่ตามซอกของฟัน ทำความสะอาดยาก จนทำให้เกิดฟันผุขึ้น ช่วยลดโอกาสการสูญเสียฟันในอนาคต ทำให้ฟันอยู่กับเราได้ยาวนาน
3. ช่วยปรับรูปหน้าให้ดูดีขึ้น การจัดฟันทำให้ใบหน้าเข้าที่มากขึ้น แก้ปัญหาการฟันสบ ฟันเหยินได้ ส่งผลให้เจ้าของใบหน้ามีความมั่นใจ กล้าพูด กล้ายิ้มมากขึ้น
ขั้นตอนการจัดฟัน
ขั้นตอนการจัดฟันเบื้องต้นมีวิธีการคล้าย ๆ กัน แต่อาจมีข้อแตกต่างในแต่ละประเภท คือ การจัดฟันด้วยเครื่องมือเเบบติดเเน่น และการจัดฟันแบบไม่ติดเครื่องมือ แต่การเตรียมตัวก่อนจัดฟันคล้ายกัน แบ่งเป็น 7 ขั้นตอนดังนี้
1. ปรึกษาทันตแพทย์ เพื่อทำการตรวจวินิจฉัยปัญหาของแต่บุคคล ตรวจรูปหน้า โครงสร้างกระดูกขากรรไกรและฟัน พร้อมทั้งซักประวัติ เช่น มีโรคประจำ ประวัติการแพ้ยา หรือยาที่กำลังใช้อยู่ในปัจจุบันว่ามีหรือไม่ เพื่อวางแผนการรักษาที่เหมาะสม ขณะเดียวกันในช่วงเวลานี้ ทันตแพทย์จะให้คำแนะนำเกี่ยวกับการจัดฟันในแต่ละวิธีการให้ทราบ เพื่อให้คนไข้ตัดสินใจว่าแบบไหนตรงความต้องการมากที่สุด
2. วางแผนการจัดฟัน เมื่อคนไข้เลือกวิธีการจัดฟันที่เหมาะกับตนเองได้เเล้ว ทันตแพทย์จะแจ้งแผนการรักษาคร่าว ๆ รวมถึงค่าใช้จ่ายในการรักษา และทำการพิมพ์ปาก สร้างแบบจำลองฟัน ถ่ายภาพ x-ray คนไข้ต้องทำการพิมพ์ฟัน และ x-ray ได้แก่ Panoramic และ Lateral
cephalometric เพื่อนำข้อมูลมาประกอบการวินิจฉัย
3. เคลียร์ช่องปาก คือการเตรียมให้ช่องปากของเราพร้อมที่จะจัดฟัน โดยทันตแพทย์ต้องเช็คสุขภาพในช่องปากก่อนเริ่มการจัดฟัน ได้แก่ การอุดฟัน ขูดหินปูน ถอนฟัน หรือผ่าฟันคุด เป็นต้น เพราะถ้าได้ติดเครื่องมือจัดฟันไปแล้ว แล้วต้องทำการรักษา จะทำให้การรักษานั้นยุ่งยาก และการเตรียมช่องปากก็จะช่วยทำให้เรามีสุขภาพเหงือกและฟันที่ดีพร้อม เพื่อเอื้อให้การจัดฟันเป็นไปได้ด้วยดี
4. นัดติดเครื่องมือ ขั้นตอนนี้จะแยกออกเป็น 2 รูปแบบ
จัดฟันโดยติดเครื่องมือ เมื่อทันตแพทย์ทำการติดเครื่องมือแล้ว จะมีการนัดหมายเพื่อปรับเครื่องมือทุก ๆ 1-2 เดือน ตามประเภทเครื่องมือจัดฟัน ซึ่งในช่วงแรกอาจจะเจ็บบ้างเล็กน้อยในช่วงนี้
จัดฟันใส ทันตแพทย์จะนัดใส่เครื่องมือจัดฟัน พร้อมแนะนำวิธีการดูแลระหว่างใส่ เพราะการจัดฟันวิธีนี้สามารถถอดออกได้ระหว่างจัดฟัน โดยเครื่องมือถูกออกแบบมาเฉพาะบุคคล เพื่อจัดระเบียบกล้ามเนื้อ และส่งผลต่อการเจริญเติบโตของขากรรไกร โดยเครื่องมือจัดฟันจะส่งแรงกดไปบนฟันอย่างนุ่มนวลเพื่อให้ฟันเคลื่อนที่บนกระดูกขากรรไกร จากนั้นทันตแพทย์จะนัดเปลี่ยนชุดเครื่องมือตามแผนที่วางไว้
5. การดูแลสุขภาพช่องปากและฟันในระหว่างจัดฟันจำเป็นต้องการดูแลอย่างดี เช่น แปรงฟันทุกครั้งหลังรับประทานอาหาร และใช้ไหมขัดฟันอย่างถูกวิธี และสม่ำเสมอ เข้าพบทันตแพทย์ตรวจเช็คช่องปาก ขูดหินปูน ทุก 3-6 เดือน เพื่อป้องกันการเกิดเหงือกอับเสบและฟันผุระหว่างการจัดฟัน
6. นัดถอดเครื่องมือ เมื่อแผนการจัดฟันเป็นไปตามที่วางไว้ ทันตแพทย์ก็จะนัดถอดเครื่องมือจัดฟัน และจะให้ใส่รีเทนเนอร์ แนะนำคนไข้จะต้องใส่ต่อเนื่องอย่างเคร่งครัด เพื่อให้ฟันคงอยู่ในตำแหน่งที่ถูกต้องสวยงามตลอดไป
7. ติดตามผล ทันตแพทย์จะนัดติดตามการใส่รีเทนเนอร์ทุก ๆ 1 เดือน 3 เดือน 6 เดือน และทุก ๆ 1 ปี
การดูแลรักษาหลังจัดฟัน
-
ควรเลือกใช้แปรงสีจัดฟันโดยเฉพาะ เพื่อทำความสะอาดเศษอาหารที่ติดอยู่ตามเครื่องมือจัดฟันได้มากขึ้น
-
เลือกใช้ยาสีฟันและน้ำยาบ้วนปากที่มีฟลูออไรด์ ช่วยป้องกันฟันผุ
-
ควรแปรงฟันหลังมื้ออาหารทุกครั้ง และควรใช้ไหมขัดฟันร่วมด้วย
-
แนะนำให้ใช้น้ำยาบ้วนปากที่มีฟลูออไรด์ หลังรับประทานทุกครั้ง
-
หมั่นตรวจเช็คฟันผุทุก 6 เดือน แนะนำให้ขูดหินปูนร่วมด้วย